
World of Scent : Lavender
World of Scent : Lavender
หลายคนคงรู้จักกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นอย่างดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันมักใช้กลิ่นของลาเวนเดอร์เป็นส่วนประกอบ และเราเชื่อว่ากลิ่นลาเวนเดอร์นั้นคงเป็นกลิ่นโปรดในดวงใจของใครหลายคน
แต่ทว่าไม่ใช่แค่ในปัจจุบันนี้เท่านั้น ที่ลาเวนเดอร์นั้นได้รับความนิยม หากย้อนไปในอดีต มนุษย์เรามีการนำลาเวนเดอร์มาใช้เพื่อกลิ่นหอม ความงาม และสุขภาพ มาอย่างช้านาน เนื่องจากลาเวนเดอร์มีหลากหลายคุสมบัติที่มาพร้อมความอ่อนโยน
ในบทความนี้ CHOL Aromatique ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับน้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ และแนะนำคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ให้ได้ทราบกัน
ลาเวนเดอร์ สารสกัดจากธรรมชาติสุดอ่อนโยนที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล
ลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้มานานหลายศตวรรษในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ในตอนแรกลาเวนเดอร์ถูกเก็บมาจากป่าในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนและนำมาทำการเพาะปลูก โดยได้รับความนิยมมากในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่การใช้ประโยชน์จากลาเวนเดอร์มีมาช้านานในหลายอารยธรรม
ดังเช่น ชาวอียิปต์โบราณนำลาเวนเดอร์มาใช้ในการดองศพและเครื่องสำอาง เห็นได้จากเมื่อเปิดหลุมศพของตุตันคาเมน ก็พบขวดโหลที่เต็มไปด้วยของเหลว ที่บรรจุสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดอกลาเวนเดอร์ ชาวกรีกเรียนรู้มากมายจากชาวอียิปต์เกี่ยวกับน้ำมันหอมลาเวนเดอร์ รวมถึงสรรพคุณในการบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ชาวโรมค้นพบว่าลาเวนเดอร์มีคุณสมบัติในการรักษาและฆ่าเชื้อโรค มีประโยชน์ในการยับยั้งแมลง และใช้ในการซักล้าง และแพทย์ชาวอาหรับกล่าวถึงการใช้ลาเวนเดอร์ในการรักษาและดูแลสุขภาพ
รวมไปถึงในยุคสมัยใหม่ ที่นักเคมีชาวฝรั่งเศส ผู้ให้กำเนิดคำว่า อโรมาเธอราพี (Aromatherapy) อย่าง Rene Gattefosse ยอมรับในคุณสมบัติการรักษาและฆ่าเชื้อโรคของลาเวนเดอร์ด้วยตนเอง เมื่อเขามีแผลไหม้ที่มืออย่างรุนแรงขณะทำงานในห้องทดลอง เขาใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ระงับเจ็บปวด ปรากฏว่าแผลไหม้ก็ค่อย ๆ หาย โดยไม่มีการติดเชื้อหรือรอยแผลเป็น ทั้งนี้น้ำมันลาเวนเดอร์ยังถูกนำมาใช้เพื่อรักษาบาดแผลสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อน้ำยาฆ่าเชื้อทางการแพทย์ขาดแคลนอีกด้วย
ในปัจจุบัน ลาเวนเดอร์ถูกนำมาใช้ในเป็นน้ำมันหอมระเหยช่วยเรื่องการนอนหลับ บรรเทาความเครียด อาการซึมเศร้า ปวดศีรษะ เมาค้าง เหนื่อยล้า และในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีอิทธิพลทางจิตใจและอารมณ์ของมนุษย์ จึงถูกนำมาใช้เป็นตัวช่วยทางเลือกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ถือเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งเลยทีเดียว
ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์มีอะไรบ้าง
- สร้างกลิ่นที่รู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด (Stress)
- ลดความวิตกกังวล (Anxiety)
- บรรเทาอาการปวดหัว (Headache)
- บรรเทาอาการไมเกรน (Migraine)
- ช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง (Hangover)
- ช่วยกำจัดแบคทีเรีย
- ช่วยรักษาแผลให้สมานเร็วขึ้น โดยเฉพาะแผลไฟไหม้แบบไม่รุนแรง
เคล็ดลับการใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์
- เปิดฝาสูดดมโดยตรงจากขวด หรือ หยดลงบนสำลีหรือผ้าเช็ดหน้าเพื่อสูดดม ทำให้ง่ายต่อพกพาติดตัว
ในกรณีที่มีอาการปวดหัว ปวดหัวไมเกรน เหนื่อยล้า หรือคัดจมูก สามารถสูดดมกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์เพื่อบรรเทาอาการหรือทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้
- ใช้ผสมกับน้ำมันบำรุงผิวเพื่อใช้นวดหรือทาตัว
เพียงใช้ 1-2 หยดผสมกับน้ำมันบำรุงผิวใช้นวดหรือทาตัว เพื่อรู้สึกผ่อนคลาย อาจใช้ก่อนนอน เพื่อบรรเทาความเครียดและความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน เพื่อให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
- ใช้กับเตาอโรม่า (Burner) 10-15 หยด หรือ เครื่องพ่นอโรม่า (Diffuser) 15-20 หยด เพื่อการกระจายกลิ่นในบริเวณห้องนอน ห้องทำงาน หรือภายในบ้านที่ดียิ่งขึ้น เพื่อปรับบรรยากาศให้เหมาะกับการพักผ่อน
- ใช้หยดในอ่างอาบน้ำ เพื่อการผ่อนคลาย โดยให้หยดน้ำมันหอมระเหย 5-10 หยด ลงในอ่างน้ำร้อน จากนั้นให้สูดดมไอร้อน จะสามารถช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาอาการหวัด
หากใครชื่นชอบในกลิ่นหอมหวานสุดผ่อนคลายจากลาเวนเดอร์ และต้องการสัมผัสกับคุณประโยชน์อันทรงคุณค่าของราชินีแห่งสมุนไพร น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์บริสุทธิ์ 100% สูตร Lavender Pure & Natural Essential Oil น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นได้
อ้างอิง: