World of Scent : Jasmine
World of Scent : Jasmine
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับกลิ่นหอมหวานสุดเย้ายวนของมะลิเป็นอย่างดี โดยกลิ่นหอมอันทรงเสน่หเฉพาะตัวนี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในกลิ่นหอมจากธรรมชาติที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากสามารถให้ทั้งความรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว และผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กันอย่างลงตัว จึงทำให้น้ำมันหอมระเหยมะลิ เป็นที่นิยมในการนำคุณประโยชน์มาบำบัดสุขภาพกายและใจ
ในบทความนี้ CHOL Aromatique ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับความเป็นมาและคุณประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยมะลิ พร้อมแนะนำเคล็ดลับในการใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิเพื่อเสริมให้สุขภาพกายใจดียิ่งขึ้น
น้ำมันหอมระเหยมะลิ ราชินีแห่งกลิ่นหอมที่ครองใจผู้คนมายาวนาน
น้ำมันหอมระเหยมะลิได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชินีแห่งน้ำมันหอมระเหย" เนื่องจากกลิ่นหอมหวา สุดเย้ายวนอันเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง โดยน้ำมันหอมระเหยมะลิอยู่คู่กับมนุษย์มานานหลายพันปีและถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของหลายอารยธรรม อย่าง อียิปต์ จีน เปอร์เซีย รวมถึงในแถบเอเชียและตะวันออกกลาง
ในอดีต น้ำมันหอมระเหยมะลิถูกนำมาใช้ในพิธีทางศาสนา ทำเครื่องหอม ตลอดจนพิธีที่เกี่ยวข้องกับความรักและความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงถูกนำมาใช้บำบัดจิตใจเพื่อช่วยคลายความวิตกกังวลและสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้คู่บ่าวสาวในคืนวันแต่งงานด้วย ทั้งนี้ กลิ่นของดอกมะลิยังถูกนำมาใช้ในการผลิตชามะลิและใช้แต่งกลิ่นกับอาหารเมนูต่าง ๆ มากมายทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง
กระทั่งต้นศตวรรษที่ 17 ชาวยุโรปเพิ่งเริ่มรู้จักกับกลิ่นหอมของมะลิ และต่อมาช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จึงเริ่มมีการผลิตน้ำมันหอมระเหยที่เมืองกราซ (Grasse) เมืองหลวงแห่งน้ำหอมของฝรั่งเศส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเชื่อกันว่าที่นี่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก
การใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีการใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิกันอย่างแพร่หลาย อย่าง ใช้ในการบำบัดแบบอโรมาเธอราพี การดูแลผิวพรรณและความงาม รวมถึงดูแลสุขภาพร่างกายในภาวะวัยหมดประจำเดือน
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้น้ำมันหอมระเหยมะลิได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะเสน่ห์ของกลิ่นหอมหวานและคุณประโยชน์อันหลากหลาย รวมถึงวัฒนธรรมการใช้กลิ่นหอมจากมะลิที่ถูกส่งต่อกันมาช้านานนั่นเอง
ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยมะลิ
บำบัดจิตใจให้ผ่อนคลาย
น้ำมันหอมระเหยมะลิถูกใช้ศาสตร์ของอโรมาเธอราพีมายาวนาน เนื่องจากสามารถบำบัดความรู้สึกเครียด วิตกกังวล กระสับกระส่ายได้ รวมถึงสามารถหยดน้ำมันหอมระเหยมะลิ 2-3 หยดลงบนหมอนก่อนเข้านอน เพื่อช่วยให้นอนหลับได้สบาย
ช่วยทำให้รู้สึกสงบ
หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าในสปาและร้านนวดหลายแห่งเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิในการทำให้รู้สึกผ่อนคลายและทำให้เข้าสู่สภาวะจิตใจที่สงบ
สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก
น้ำมันหอมระเหยมะลิถูกนำมาใช้ในการสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกตั้งแต่ในอดีตกาล เนื่องจากสามารถสร้างกลิ่นหอมเย้ายวนและช่วยเสริมบรรยากาศให้โรแมนติกได้เป็นอย่างดี พร้อมคลายความกังวลและความประหม่าหรือความขวยเขินให้กับคู่รัก
ช่วยบำบัดอาการในภาวะวัยหมดประจำเดือน
น้ำมันหอมระเหยมะลิไม่สามารถป้องกันอาการที่เกี่ยวข้องกับวัยหมดประจำเดือนได้ แต่สามารถช่วยทำให้จิตใจสงบและรู้สึกผ่อนคลายลงจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่หลายคนต้องเผชิญในช่วงวัยหมดประจำเดือนได้ อย่าง อาการร้อนวูบวาบ อารมณ์หงุดหงิด หรือว้าวุ่นใจ ดังนั้น หากใครกำลังเผชิญกับภาวะวัยหมดประจำเดือน และต้องการช่่่วยทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย น้ำมันหอมระเหยมะลิเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี
ลดรอยแผลเป็น
เมื่อนำน้ำมันหอมระเหยมะลิมาผสมกับโลชันหรือน้ำมันตัวพา สามารถนำมาบำรุงผิวพรรณเพื่อช่วยลบเลือนรอยแผลเป็นหรือรอยแตกให้ดูจางลงได้
สำหรับใครที่ชื่นชอบในกลิ่นหอมหวานสุดเย้ายวนของมะลิ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลาย ทั้งยังมาพร้อมคุณประโยชน์มากมาย ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพกายและจิตใจ แนะนำให้มีน้ำมันหอมระเหยมะลิบริสุทธิ์ 100% สูตร Jasmine Pure & Natural Essential Oil ไว้ สามารถอ่านรายละเอียดเพื่อสั่งซื้อได้ที่: คลิก
เคล็ดลับการใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิ
- เปิดฝาสูดดมโดยตรงจากขวด หรือ หยดลงบนสำลีหรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย สร้างความสมดุลทางอารมณ์ และฟื้นฟูจิตใจ
- ใช้กับเตาอโรม่า (Burner) 10-15 หยด หรือ เครื่องพ่นอโรม่า (Diffuser) 15-20 หยด เพื่อการกระจายกลิ่นภายในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศเชิงบวก และสงบเหมาะกับการพักผ่อน
- สำหรับการบำรุงผิวพรรณ ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยมะลิ 1-2 หยด ผสมกับ โลชั่น หรือ ออยบำรุงผิว เพื่อใช้ลดรอยแผลเป็นหรือรอยแตกของผิว
- สำหรับการนวดอโรมาเธอราพีเพื่อผ่อนคลาย ให้ผสมน้ำมันหอมระเหยมะลิ 3 หยด กับ น้ำมันตัวพา อย่าง น้ำมันสวีทอัลมอนด์ 30 มล. เพื่อนำมานวดบริเวณหลัง คอ และไหล่ เพื่อสร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย แต่หากต้องการสร้างประสบการณ์การนวดให้โรแมนติกยิ่งขึ้น แนะนำให้คู่รักผลัดกันนวดซึ่งกันและกัน